ทุกวันนี้บรรดาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยต่างก็ได้ปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลด้วยการทำ digital transformation
ทุกวันนี้บรรดาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยต่างก็ได้ปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลด้วยการทำ digital transformation เพื่อยกระดับการทำงานให้ดีขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีสำหรับเอเจนท์อสังหา ที่มีแนวโน้มในการใช้งานจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ นายหน้าอิสระ หัวหน้าทีมเซลส์โครงการ หรือแม้แต่บริษัทอสังหา เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่คำถามที่ยังมีหลายคนสงสัยตามมานั่นก็คือ เทคโนโลยีสำหรับเอเจนท์อสังหาอะไรบ้างที่น่าสนใจในปี 2023 มีเทรนด์ใดที่เหล่าผู้ทำงานในแวดวงอสังหาฯ ควรที่จะเริ่มศึกษาหรือนำมาประยุกต์ใช้กับการทำธุรกิจของตัวเองบ้าง จากนี้ไปเราจะนำเสนอเทคโนโลยีที่น่าสนใจให้คุณได้รู้ถึง 6 ข้อด้วยกัน
Chatbot conversation Ai Artificial Intelligence technology online
1. การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเพิ่มโอกาสปิดการขายอสังหาได้มากขึ้น
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามาบทบาทสำคัญต่อเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับเอเจนท์อสังหามากขึ้นเรื่อยๆ อ้างอิง จาก บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกเปิดเผยว่า 63% ของบริษัทอสังหาฯ ที่นำ AI มาใช้งานภายในองค์กรสามารถหารายได้และทำกำไรได้เพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับ บริษัทที่ปรึกษาและรับตรวจสอบบัญชีชั้นนำของโลก ซึ่งเปิดเผยว่าในปี 2023 ภาพรวมของตลาดเทคโนโลยี AI มีการเติบโตขึ้นถึง 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2019 เลยทีเดียว
โดยโซลูชันที่มีการใช้งานกับธุรกิจอสังหาในปัจจุบันก็มีตั้งแต่ แชตบอทที่คอยโต้ตอบกับลูกค้าแบบอัตโนมัติ มีรูปแบบการตอบข้อซักถามหรือมอบคำแนะนำได้อย่างเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับการตอบโดยพนักงานที่เป็นมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ
AI ไม่เพียงแต่จะช่วยเรื่องประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถวิเคราะห์แนวโน้มตลาดอสังหาฯ ควบคู่กับการประเมินผลลัพธ์ให้ออกมาในรูปแบบของข้อมูลเชิงลึกสำหรับการลงทุน ด้วยอัลกอริทึมของ AI ที่สามารถประเมินและคาดการณ์มูลค่าของทรัพย์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำไม่แพ้นายหน้าอสังหามืออาชีพ
จึงกล่าวได้ว่า คือเทคโนโลยีสำคัญสำหรับเอเจนท์อสังหา ที่เข้ามาช่วยทรัพย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ตั้งแต่การมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผู้สนใจในทรัพย์ รวมถึงการวิเคราะห์และคาดการณ์โอกาสของทรัพย์ต่างๆ ที่อาจมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตได้จากชุดข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน
2. เชื่อมโยงการทำงานแบบไร้รอยต่อด้วยเทคโนโลยี 5G
ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาฯ สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ด้วยการเชื่อมต่อที่เร็วและช่วยให้การรับส่งข้อมูลทำได้ไวยิ่งขึ้น โดยเอเจนท์และนายหน้าอิสระสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและทำงานให้สำเร็จได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการเข้าถึงข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แบบเรียลไทม์ได้จากทุกที่ทุกเวลา ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์สามารถให้บริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพแก่ลูกค้าได้ดีกว่า
ไม่ใช่แค่เรื่องความรวดเร็วในการสื่อสารและการให้บริการที่ดีมีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากการนำเอา 5G มาใช้เท่านั้น แต่ธุรกิจอสังหาฯ ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ก็ยังสามารถพาลูกค้าทัวร์ดูบ้านและคอนโดเบื้องต้นได้ด้วยการวิดีโอคอลผ่านทางมือถือ หรือลงทุนทำทัวร์แบบเสมือนจริงที่ลูกค้าสามารถดูทรัพย์ได้จากที่ไหนก็ได้ทั่วโลก โดยไม่มีเรื่องของเวลาหรือสถานที่เข้ามาเป็นอุปสรรคแต่อย่างใด
นอกจากนี้ เทคโนโลยี 5G ยังช่วยให้บริษัทอสังหาฯ, เอเจนท์, นายหน้าอิสระ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ที่รวมถึงทนายความและเจ้าหน้าที่ประเมินราคาทรัพย์ สามารถทำงานแบบเรียลไทม์พร้อมกับแชร์ข้อมูลของทรัพย์และข้อมูลลูกค้าได้ทันที ทั้งจากเว็บไซต์อสังหาหรือแอปตัวแทนอสังหา ที่ปัจจุบันมีผู้พัฒนาขึ้นมามากมายทั่วโลก ซึ่งในไทยก็มี ที่ถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มอสังหาที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผู้มืออาชีพด้านอสังหาในประเทศไทย
green building is trend for real estate
3. เทคโนโลยีอาคารสีเขียวที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในโลกที่ทรัพยากรต่างๆ เริ่มร่อยหรอลง ทั้งอิฐ หิน ดิน และทราย ทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทปรับตัวสูงขึ้น แถมเมื่อตึกหรือบ้านเหล่านั้นถึงเวลาที่ต้องทุบทำลายทิ้ง เศษซากต่างๆ ที่หลงเหลืออยู่ก็แทบไม่สามารถนำไปรีไซเคิลเพื่อกลับมาใช้ซ้ำได้อีกครั้ง ซึ่งเว็บไซต์ เผยว่าจะดีกว่าไหมหากเราหันมาใช้วัสดุในการก่อสร้างบ้านและอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืนในระยะยาว เช่น ไม้ไผ่, จุกก๊อก, เฮมพ์กรีต, เหล็กรีไซเคิล และอื่นๆ อีกหลายรายการ
เทคโนโลยีต่อมาที่ช่วยให้วงการอสังหาฯ พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ก็คงเป็นเรื่องของอาคารสีเขียว (green building) ที่หลักการและแนวทางปฏิบัติในการออกแบบ, การก่อสร้าง, และการดำเนินงานด้านอาคารจะเน้นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้วัสดุและเทคนิคที่ลดรอยเท้าทางคาร์บอน (carbon footprint) ของอาคารให้เหลือน้อยที่สุด
ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงานและสร้างสภาพแวดล้อมในอาคารที่ดีต่อสุขภาพกายและจิตใจให้แก่ผู้ใช้งานอาคารหรือผู้อยู่อาศัย เพราะเป้าหมายหลักคือการสร้างโครงสร้างที่กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมและนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
สำหรับอาคารใดที่ได้ชื่อว่าเป็นอาคารสีเขียว โดยเฉพาะกับอาคารสำนักงานด้วยแล้ว นายหน้าอสังหาฯ ก็สามารถเสนอราคาขายหรือปล่อยเช่าได้ราคาดีกว่าอาคารทั่วไป เพราะองค์กรที่มาเช่าสำนักงานนอกจากจะได้ภาพลักษณ์ว่าเป็นผู้ที่มีส่วนช่วยดูแลโลกนี้ให้ดียิ่งขึ้นแล้ว ยังได้ในเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาที่ใช้น้อยกว่าจนช่วยประหยัดเงินที่ต้องจ่ายได้ในระยะยาวอีกด้วย
4. Augmented Reality (AR) สำหรับการตลาดอสังหาขั้นสูง
Augmented Reality (AR) เป็นเทคโนโลยีสำหรับเอเจนท์อสังหาที่มีประโยชน์มากมายสำหรับทั้งเอเจนท์ นายหน้า และลูกค้าที่สนใจในบ้านหรือคอนโด โดยเราสามารถยกตัวอย่างข้อดีของการใช้ AR กับการทำงานในแวดวงอสังหา โดยเริ่มจากฝั่งผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ดังนี้
ช่วยให้นายหน้าสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจและรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมกับทรัพย์ที่พวกเขาสนใจมากขึ้น ด้วยการพาชมบ้านหรือคอนโดผ่านทัวร์เสมือนจริงด้วยการใช้ AR ที่จะแสดงคุณลักษณะเด่นต่างๆ ของทรัพย์ดังกล่าวได้ทุกซอกทุกมุม รวมถึงเปิดโอกาสให้นายหน้าสามารถสาธิตตัวเลือกการออกแบบภายใน หรือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้โดยไม่ต้องไปยังสถานที่จริงให้เสียเวลา
ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยี AR ยังช่วยให้บริษัทอสังหาทำงานร่วมกันจากระยะไกลกับลูกค้า ผู้รับเหมา และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการซื้อหรือขาย เพราะพวกเขาสามารถแบ่งปันการแสดงภาพ AR เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับรายละเอียดของทรัพย์สิน และทำการตัดสินใจอย่างรอบคอบ ซึ่งทั้งประหยัดเวลาและสื่อสารได้เคลียร์จบแบบที่ไม่ต้องพูดคุยกันอีกหลายรอบ
สำหรับฝั่งผู้ซื้ออย่างคนที่สนใจในทรัพย์ต่างๆ นั้น คุณก็จะได้มีโอกาสเยี่ยมชมบ้านหรือคอนโดนั้นผ่านทาง AR เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากที่สุด ทั้งยังสามารถพิจารณาได้ว่าสถานที่ดังกล่าวเหมาะที่จะซื้อหรือเช่าเพื่ออยู่อาศัยมากแค่ไหน โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูสถานที่จริง ซึ่งช่วยประหยัดเวลา ค่าเดินทาง และไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดตารางนัดหมายเพื่อไปพบนายหน้าอสังหาแต่อย่างใด
IOT connected objects in apartment
5. Internet of Things (IoT) กับการจัดการอสังหาแบบอัจฉริยะ
นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา (Internet of Things) ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อการใช้ชีวิตผู้คนที่อยู่ในบ้านหรือคอนโด ไม่เพียงเท่านี้ยัง บรรดาเอเจนท์รวมถึงนายหน้าอสังหาก็ได้รับประโยชน์มากมายจากการใช้ IoT อีกด้วย เพราะไม่ใช่แค่การใช้ IoT เพื่ออำนวยความสะดวกระหว่างการอยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการอสังหาฯ ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากทรัพย์ที่เสนอขายหรือปล่อยเช่ามีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ระบบไฟส่องสว่าง กล้องวงจรปิด และประตูดิจิทัลซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี IoT มาเพื่อช่วยให้ตรวจสอบหรือควบคุมได้จากระยะไกล นายหน้าก็สามารถใช้ IoT ที่มีอยู่ภายในบ้านเป็นจุดเด่นเพื่อดันให้มูลค่ารวมถึงค่าเช่าทรัพย์นั้นมีราคาที่เพิ่มสูงขึ้นได้กว่าปกตินั่นเอง
นอกจากจะมี IoT ไว้เพื่ออัปราคาบ้านรวมถึงค่าเช่าได้ นายหน้าก็ยังใช้อุปกรณ์ IoT เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของทรัพย์ที่อยู่ในมือผู้เช่าได้ตลอดเวลา เช่น อุณหภูมิ, ความชื้น, การรั่วไหลของน้ำ, และการใช้พลังงาน ซึ่งนายหน้าอสังหาสามารถติดตามและจัดการอุปกรณ์เหล่านี้ได้จากระยะไกล ทำให้มั่นใจได้ว่าบ้านหรือคอนโดที่ปล่อยเช่าจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี แถมเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้อีกทางหนึ่งด้วย
โดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี IoT ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จะได้รับประโยชน์จากบ้านหรือคอนโดอัจฉริยะ และการตรวจสอบทรัพย์สินที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้เอเจนท์และนายหน้าอสังหาสามารถมอบบริการที่ดีขึ้นไปพร้อมๆ กับการสร้างจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่งอื่นในอุตสาหกรรมเดียว รวมถึงสามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
6. แพลตฟอร์มเอเจนท์และนายหน้าที่ครอบคลุมการทำงานด้านอสังหา
มาถึงเทคโนโลยีสำหรับเอเจนท์อสังหาอันดับสุดท้ายที่มีประโยชน์ไม่แพ้ข้ออื่นๆ ที่เรากล่าวมาก่อนหน้านี้อย่างแพลตฟอร์มสำหรับเอเจนท์และนายหน้าที่ครอบคลุมงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ถือได้ว่าเป็นโซลูชันที่ตอบสนองความต้องการของคนที่ทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ
ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางที่เปิดโอกาสเอเจนท์และนายหน้าสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ เช่น , การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า, และการจัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องบนออนไลน์ เพื่อช่วยให้บริษัทอสังหา, เอเจนท์, และนายหน้าอิสระสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงยังใช้งานโปรแกรมอสังหานี้ผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือบนได้ทุกที่และทุกเวลา เรียกได้ว่าประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและเวลาที่ต้องเสียไปได้ดีมากๆ
Property Flow หนึ่งในผู้นำเทคโนโลยีสำหรับเอเจนท์อสังหาของไทย
บรรดาเทคโนโลยีสำหรับเอเจนท์อสังหาทั้งหมดที่เราได้หยิบยกมาในวันนี้ ล้วนเป็นนวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ลดเวลา และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่ลูกค้าพึงพอใจได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หากบริษัท เอเจนท์ หรือนายหน้าอสังหาได้ใช้ Property Flow แพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์นี้จะช่วยให้คุณสามารถจัดการ listing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมๆ กับรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าได้เหนียวแน่น ควบคู่กับการวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บไว้อย่างละเอียด และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราคือหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีสำหรับเอเจนท์อสังหาของไทย
ข้อความแนะนำด้านล่างเว็บไซต์
ข้อความแนะนำด้านล่างเว็บไซต์